1.     คุณสมบัติของผู้สมัครเข้าศึกษา

1.1  คุณสมบัติทั่วไป

2.1.1   สามารถสื่อสารภาษาไทยได้

2.1.2   เป็นผู้มีความรับผิดชอบสูง มีความละเอียดรอบคอบ ซื่อสัตย์สุจริต ที่สามารถแสดงให้เห็นได้ทุกขั้นตอน

          ตั้งแต่ขั้นตอนการสมัครสอบ การสอบข้อเขียน การทดสอบ สุขภาพจิต ตรวจสุขภาพ และการสอบสัมภาษณ์

1.2  คุณสมบัติเฉพาะ

1.2.1 มีสัญชาติไทย อายุไม่เกิน 30 ปีบริบูรณ์ (นับถึงวันที่ 18 สิงหาคม 2557 : วันเปิดภาคการศึกษา)

1.2.2 สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า หรือ กำลังศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษา ปีที่ 6 และคาดว่าจะสำเร็จการศึกษาในปีการศึกษา 2556

ตามหลักสูตรที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนดหรือรับรอง โดยจำแนกรายละเอียด ดังนี้

2.2.2.1 เป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า หรือกำลังศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6

           และคาดว่าจะสำเร็จการศึกษา ในปีการศึกษา 2556 หรือ

2.2.2.2 สำเร็จการศึกษาหรือกำลังศึกษาภาคสุดท้ายจากโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทย

                                 โดยได้รับการพิจารณาเทียบวุฒิการศึกษาจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกระทรวงศึกษาธิการ หรือ  

2.2.2.3 สำเร็จการศึกษาจากต่างประเทศ โดยได้รับการพิจารณาเทียบวุฒิการศึกษาจาก สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

            กระทรวงศึกษาธิการและต้องแสดงหลักฐานฉบับจริงในวันรายงานตัวเพื่อทดสอบสุขภาพจิต ตรวจสุขภาพ และสอบสัมภาษณ์

2.3  คุณสมบัติด้านการใช้ภาษาอังกฤษ ผู้สมัครต้องแสดงความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษโดยส่งผลการทดสอบความสามารถทางภาษาอังกฤษอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้

       และต้องส่งหลักฐานฉบับจริงในวันรายงานตัวเพื่อทดสอบสุขภาพจิต ตรวจสุขภาพ และสอบสัมภาษณ์

2.3.1    IELTS – (The International English Language Testing System) ประเภท Academic ไม่น้อยกว่าระดับ 6.5

2.3.2    TOEFL score ไม่น้อยกว่าที่กำหนดดังนี้ paper-based test total score 550 หรือ computer-based test total score 213 หรือ internet-based test total score 79

2.3.3    TU-GET score ไม่น้อยกว่า 550

                                     ผลคะแนนที่นำมาแสดงตามข้อ 2.3.1 - 2.3.3 ต้องมีระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี นับจากวันที่ทดสอบจนถึงวันรับสมัคร

2.4  คุณสมบัติเพิ่มเติมของผู้มีสิทธิสมัครสอบคัดเลือกเข้าศึกษา สาขาวิชาแพทยศาสตร์

ขอกำหนดคุณสมบัติเฉพาะผู้สมัครเข้าเรียนหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต (ภาคภาษาอังกฤษ) ให้เหมาะสม  

โดยยึดหลักสำคัญ 3 ข้อ คือ  (1) ไม่ให้เกิดอันตรายต่อผู้ป่วย  (2) ไม่ให้เกิดอันตรายต่อนักศึกษาแพทย์เอง 

และ (3) เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการศึกษา ดังนี้

                   2.4.1  ต้องมีคุณสมบัติที่จะปฏิบัติงานในส่วนราชการหรือหน่วยงานต่างๆ ของรัฐได้หลังจากจบการศึกษาแล้ว โดยต้องสามารถทำสัญญาผูกพันฝ่ายเดียว

                                 หรือสัญญาปลายเปิดกับรัฐบาล ตามระเบียบและเงื่อนไขของรัฐบาลกับมหาวิทยาลัย

                   2.4.2  ผู้สมัครเข้าศึกษาสาขาแพทยศาสตร์ จะต้องมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง และปราศจากโรค อาการของโรคหรือความพิการอันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาการปฏิบัติงาน

                                  และการประกอบวิชาชีพเวชกรรมดังต่อไปนี้

                          2.4.2.1 มีปัญหาทางจิตเวชขั้นรุนแรงอันอาจเป็นอันตรายต่อตนเอง และ/หรือผู้อื่น เช่น โรคจิต (Psychotic Disorders) โรคอารมณ์ผิดปกติ (Mood Disorders)

                                            โรคประสาทรุนแรง (Severe Neurotic Disorders) โรคบุคลิกภาพผิดปกติ (Personality Disorders) โดยเฉพาะ Antisocial Personality Disorders

                                            หรือ Borderline Personality Disorders  รวมถึงปัญหาทางจิตเวชอื่นๆ อันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา การปฏิบัติงาน และการประกอบวิชาชีพเวชกรรม

                          2.4.2.2 เป็นโรคติดต่อในระยะติดต่ออันตรายที่อาจเกิดอันตรายต่อตนเอง ต่อผู้ป่วย หรือส่งผลให้เกิดความพิการอย่างถาวร อันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาการปฏิบัติงาน

                                            และการประกอบวิชาชีพเวชกรรม

                          2.4.2.3  เป็นโรคไม่ติดต่อหรือภาวะอันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา ที่อาจเกิดอันตรายต่อตนเองต่อผู้ป่วย และการประกอบวิชาชีพเวชกรรม

                          2.4.2.4  มีความพิการทางร่างกายอันอาจเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา การปฏิบัติงาน และการประกอบวิชาชีพเวชกรรม 

                 2.4.2.5  มีความผิดปกติในการเห็นภาพ โดยมีอย่างน้อยข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

                                   2.4.2.5.1  ตาบอดสีชนิดรุนแรงทั้งสองข้าง โดยได้รับการตรวจอย่างละเอียดแล้ว                                                           

                                   2.4.2.5.2  ระดับการมองเห็นในตาข้างดี แย่กว่า 6/12 หรือ 20/40 เมื่อได้แก้ไขแล้ว

                          2.4.2.6  มีความผิดปกติในการได้ยินทั้งสองข้าง โดยมีระดับการได้ยินเฉลี่ยที่ความถี่ 500-2,000 เฮิรตซ์ สูงกว่า 40 เดซิเบล และความสามารถในการแยกแยะคำพูด

                                             (speech discrimination score) น้อยกว่าร้อยละ 70   จากความผิดปกติของประสาท และเซลล์ประสาทการได้ยิน (sensorineural hearing loss)

 

 

หากปรากฏในภายหลังว่าผู้สมัครขาดคุณสมบัติข้อใดข้อหนึ่งดังกล่าวข้างต้น หรือให้ข้อมูล

อันเป็นเท็จ หรือจงใจปกปิดข้อมูล จะถูกตัดสิทธิ์มิให้เข้าศึกษาในหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต

(ภาคภาษาอังกฤษ) แม้ว่าจะสามารถสอบคัดเลือกได้

 

 

รายละเอียด/เงื่อนไข/เกณฑ์การคัดเลือก เป็นไปตามประกาศมธ. เรื่อง การรับสมัครบุคคลเพื่อสอบคัดเลือก

เข้าศึกษาในคณะแพทยศาสตร์ หลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต (ภาคภาษาอังกฤษ) ระดับปริญญาตรี 

ประจำปีการศึกษา 2557